ฟิทช์ เรทติ้งส์ -กรุงเทพฯ -7 ตุลาคม 2563: โรงแรมในประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา น่าจะยังคงต้องเผชิญกับรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (revenue per available room หรือ RevPAR) ที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง
แม้ฟิทช์จะคาดว่า RevPAR น่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2564-2565 จากจุดต่ำสุดในปี 2563 แต่น่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยได้รับในปี 2562 การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ล่าช้าภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ยังคงเป็นความท้าทายหลักที่โรงแรมในประเทศไทยจะต้องเผชิญในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า การสะสมเงินสดและการปรับลดต้นทุนได้กลายเป็นปัจจัยสำหรับความอยู่รอดของกลุ่มธุรกิจโรงแรมภายใต้สภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ยากลำบากในปัจจุบัน
ฟิทช์ คาดว่า ในปี 2563 RevPAR เฉลี่ยของโรงแรมในประเทศจะลดลงมากกว่าร้อยละ 60 จากปีก่อน (ครึ่งปีแรกของปี 2563 ลดลงร้อยละ 65) โดยฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่อัตราการเข้าพัก และราคาห้องพักจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ฟิทช์ คาดว่าผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่จะมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ติดลบในปี 2563 และฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในปี 2564-2565 อัตรากำไรของผู้ประกอบการโรงแรมที่จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายใหญ่ที่สุดสามรายลดลงอย่างมากในครึ่งปีแรกของปี 2563 แม้จะมีความพยายามปรับลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยผู้ประกอบการเหล่านี้ต่างระบุถึงความสามารถอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการปรับลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรายเดือนต่างๆ ได้ในระดับร้อยละ 20-30 จากฐานปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับอัตราการเข้าพักที่จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุน ลดลงประมาณร้อยละ 10-20 แตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัท
ผลประกอบการที่อ่อนแอลงน่าจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ณ สิ้นปี 2563 โดยน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ปีในการปรับลดอัตราส่วนหนี้สินให้ลงมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาดทั้งนี้มีสมมติฐานว่าไม่มีเงินลงทุนขนาดใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว