ต้นกำเนิดและที่มาของเม่นแคระที่เราเลี้ยงกัน

ต้นกำเนิดและที่มาของเม่นแคระที่เราเลี้ยงกัน

jumbo jili

เม่นแคระสายพันธุ์ white-bellied และ algerian มีปรากฏตัวในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1991 โดยนำเข้าจากประเทศไนจีเรียซึ่งมีการพูดว่าเป็นที่นิยมอย่างมากที่นั่น พวกมันได้ถูกนำเข้ามาทางเรือสู่นิวยอร์กเพื่อขายเป็นสัตว์เลี้ยง ต่อมาทางการสหรัฐได้ห้ามนำเข้าเมื่อปี 1994 ซเพราะในขณะนั้ได้เกิดโรคระบาดในประเทศไนจีเนีย ซึ่งในขณะนั้นได้มีการนำเข้ามาแล้วประมาณ 80,000 ตัว

สล็อต

เม่นแคระสายพันธุ์นี้มีการนำเข้าในหลายๆประเทศรวมทั้งยุโรปได้อย่างไม่มีปัญหา ก่อนจะเป็นที่นิยมอย่างมากในเวลาต่อมา ในช่วงสี่ปีแรกที่นำเข้ามีคนให้ความสนใจในการเลี้ยงดูและการผสมพันธุ์โดยไม่ได้ตาดติดว่ามีการนำเข้ามา 2 สายพันธุ์
ทั้ง 2 สายพันธุ์ได้ถูกผสมกันเองและผสมข้ามพันธุ์จนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงในปัจจุบัน เป็นการยากที่จะบอกว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งน่าจะพูดได้ว่าเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิด(ประมาณว่าตอนแรกๆไม่มีใครรู้ว่ามี 2 สายพันธุ์) แต่เป็นไปได้ว่าสายพันธุ์แท้น่าจะยังมีอยู่ใน UK แต่ยังมีความจริงอีกข้อหนึ่งคือ ผู้เก็บรักษาพันธุ์ดั้งเดิมในอังกฤษก็นำเข้าเม่นจากสหรัฐอย่างน้อยหนึ่งครั้งเหมือนกัน ซึ่งทำให้เกรงว่าผู้เก็บรักษาพันธุ์จดจำลักษณะของทั้ง 2 สายพันธุ์จากเม่นของพวกเขาเองซึ่งอาจเป็นพันธุ์ผสมมาตั้งแต่แรก
African pygmy hedgehogs ในปัจจุบันเกิดจากการผสมกันของทั้ง 2 สายพันธุ์เป็นเวลานานหลายปีจนเกิดเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นชนิดใหม่ที่เลี้ยงกันเม่นแคระพวกนี้ไม่ได้มีขนาดเล็กจนเรียกได้ว่าเป็นแคระอย่างแท้จริง แต่คาดว่าเกิดจากการที่มันมีขนาดเล็กกว่าเม่นของยุโรปและสายพันธุ์อื่นๆ เม่นแคระพวกนี้โดยปกติมีขนาดยางประมาณ 5-8 นิ้วหรือขนาดพอๆกับหนูตะเภาท้องถิ่น โดยเม่นเลี้ยงในปัจจุบันมีความแตกต่างกันไปทั้งขนาด สี และน้ำหนัก ลักษณะเหล่านี้ปรากฏให้เห็นได้จากสายพันธุกรรมโดยที่ความแตกต่างอย่างชัดเจนเกิดขึ้นจากการผสมช้ามพันธุ์นั่นเอง ในขณะที่สัตว์เลี้ยงอื่นๆมีคนทำการผสมและพัฒนาลักษณะที่เห็นได้กัน แต่เม่นแคระกลับมีสีที่แน่นอนสำหรับเป็นตัวอย่างน้อย การผสมพันธุ์เม่นแคระจึงเป็นเพียงงานอดิเรกคล้ายกับการผสมพันธุ์สัตว์อื่นเพื่อให้เป็นสัตว์เลี้ยงขาย
African Pygmy Hedgehog ที่นิยมเลี้ยงกันในบ้านเราก่อนนะครับ แล้ววันหลังจะเอาตัวอื่นมาให้รู้จักกัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Atelerix albiventris, Altelerix algirus
ชื่อสามัญ : African dwarf hedgehog, African pygmy hedgehog, White-bellied hedgehog, Four-toed hedgehog, Pruners hedgehog, Middle african hedgehog, American hedgehog
ลักษณะทั่วไป : เม่นแคระเหล่านี้พบอาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกับหนูตะเภาท้องถิ่น(น่าจะหมายถึงแถบแอฟริกา) หูสั้น มีขนสีขาวบริเวณหน้าและครึ่งล่างของลำตัว พวกมันมีนิ้วที่ขาหน้า 4 นิ้ว และ 5 นิ้วที่ขาหลัง หนามจะมีแถบสีพาดกลางซึ่งมีได้หลายเฉดสี มีขนาดหลากลายโดยมีนน.ตั้งแต่ระดับ ออนซ์ จนถึง ปอนด์
ถิ่นกำเนิด : แอฟริกากลาง, แอฟริกาตอนใต้ตั้งแต่เซเนกัลถึงซูดาน และ แซมเบีย
ลักษณะที่อยู่อาศัย : แถบทุ่งหญ้าสะวันน่าและแถบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่ไม่มีต้นไม้
ลักษณะนิสัย : เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กประเภท Omnivorous(กินได้ทุกอย่าง)
Atelerix albiventris (The 4-Toed or White-Bellied Hedgehog)

  • ถิ่นอาศัย : แอฟริกากลาง
  • ลักษณะที่ปรากฏ : ขนาด7-10นิ้ว หนัก300-700กรัม หนามมีแถบสีน้ำตาลช็อคโกแลตถึงดำพาดกลาง ขนใต้ท้องสีขาว ขาหลังไม่มีนิ้วหัวแม่เท้า
  • ถิ่นอาศัย : แอฟริกาเหนือจากโมร็อคโคถึงลิเบีย รวมทั้งบริเวณเล็กในสเปนตอนใต้และฝรั่งเศส หมู่เกาะคานารี
    มอลตา และ Djerba
  • ลักษณะที่ปรากฏ : ขนาด8-14นิ้ว หนัก400-1000กรัม หนามมีสีครีมและมีสีน้ำตาลช็อคโกแลต
    พาดกลาง ขนใต้ท้องสีขาว
    Atelerix sclateri (The Somalian Hedgehog)
  • ถิ่นอาศัย : พบเฉพาะในโซมาเลียตอนเหนือ
  • ลักษณะที่ปรากฏ : ขนาด7-10นิ้ว หนัก300-700กรัม หนามมีแถบสีน้ำตาลช็อคโกแลตถึงดำ พาด กลางขนใต้ท้องสีขาวและมีสีน้ำต่ลด้านข้างของบริเวณใต้ท้อง
    Atelerix frontalis (The South African Hedgehog)
  • ถิ่นอาศัย : แอฟริกาใต้ ซิมบับเว่ และ แซมเบีย
  • ลักษณะที่ปรากฏ : ขนาด7-10นิ้ว หนัก300 – 700กรัม หนามมีแถบสีช็อคโกแลตเข้มถึงดำพาดกลางและมีแถบสีขาวแบบขนพาดที่หัวส่วนหน้า ขนใต้ท้องสีน้ำตาลเทาเม่นแคระสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์หายากอยู่ใน Red list ระดับ VU(vulnerable)
    การเลี้ยงและการดูแล
    เนื่องจากเม่นเป็นสัตว์หวงถิ่น จึงควรแยกเลี้ยงเม่นแคระในกล่องพลาสติคทึบแสงที่มีขายกันอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปๆ ขนาดพอประมาณ นำมาดัดแปลงโดยเจาะรูด้านข้างด้วยสว่านเจาะ หรือการเจาะเป็นช่องแล้วนำตาข่ายมาติดด้วยน็อต หรือไม่ก็ใช้กาวแท่งร่วมกับปืนกาว ช่วยในการ ยึดติดตาข่าย 1 ตัว ต่อ 1 กล่อง

สล็อตออนไลน์

โดยในกล่องเลี้ยงเม่นแคระ ควรมีอุปกรณ์พื้นฐาน ได้แก่ บ้านหรือโพรงเป็นมุมมืด
ไว้ให้เม่นได้นอนกลางวัน ถ้วยสำหรับใส่อาหาร ขวดน้ำ ขี้เลื่อยสำหรับรองพื้นกล่อง เพื่อช่วยดูดซับของเสียจากการขับถ่ายของเม่นแคระ (แนะนำให้ใช้เป็นแบบก้อนอัดแท่ง เพราะสะอาดและประหยัด) วิตามินผสมน้ำเพื่อช่วยเพิ่มเติมสารอาหารที่ขาดหายไป และอีกสิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ อาหารแมว ไม่แนะนำให้ใช้อาหารสุนัข เพราะว่าเม็ดใหญ่กว่า และมีความแข็งมากกว่าอาหารแมว ทำให้เม่นแคระกัดกินลำบาก
การอาบน้ำให้เม่น
เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบน้ำสักเท่าไร แต่การอาบน้ำเม่นแคระก็มีสำคัญเพื่อช่วยทำความสะอาดร่างกาย กำจัดไร ศัตรูอีกตัวหนึ่งของเม่นแคระ การอาบน้ำเม่นแคระนั้นไม่ควรอาบบ่อยๆ ควรจะอาบสัก 2 อาทิตย์ครั้ง แล้วก็ควรเลือกช่วงเวลาที่อากาศร้อนๆ เช่นตอนเที่ยงวัน เพราะจะได้ไม่ทำให้เม่นแคระหนาวจนเกินไป (ไม่ควรใช้เวลาในการอาบน้ำนานๆ) และช่วยให้เม่นแคระตัวแห้งเร็วขึ้นเมื่ออาบน้ำเสร็จ
ข้อควรระวังในการอาบน้ำคือเรื่องของน้ำ ต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าตา จมูก หรือหู ของเม่นแคระ และเมื่ออาบน้ำทำสะอาดด้วยน้ำยาอาบน้ำแล้ว ควรล้างน้ำเปล่าให้มากๆ อย่าให้เหลือตกค้างเพราะอาจทำให้เม่นแคระผิวหนังแห้ง ตกสะเก็ด แพ้ จนอาจขนร่วงได้ (สำหรับเม่นเล็ก รอให้อายุประมาณ 2 เดือน ค่อยเริ่มอาบน้ำ)
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการอาบน้ำเม่นแคระ
น้ำยาอาบน้ำเม่นแคระ อาจใช้แชมพูสำหรับเด็กเล็ก หรือ น้ำยาอาบน้ำสุนัข หรือ แมว ให้เลือกสูตรที่อ่อนโยน เป็นไปได้ให้เลือกสูตรที่กำจัดไรได้ด้วยก็จะเป็นการดี ผสมใช้อาบเม่นแคระแบบเจือจาง ไม่ต้องเข้มข้นมาก
ผ้าขนหนู สำหรับเช็ดตัวเม่นแคระหลังจากอาบน้ำเสร็จ
กล่องพลาสติก หรือ กะละมังเล็กๆ เอาไว้ใส่ส่วนผสมน้ำยาอาบน้ำ และเป็นพื้นที่ในการอาบน้ำเม่นแคระ
แปรงสีฟัน ใช้สำหรับขัดสิ่งสกปรกที่ติดตามขนเม่นแคระ โดยการแปรงจากหัวเม่นแคระไปท้ายเม่นแคระ
วิธีการอาบน้ำเม่นแคระ
เริ่มจากจับเม่นแคระมาอาบน้ำเปล่าเพื่อชะล้างลิ่งสกปรกในเบื้องต้นออกไปก่อน ผสมน้ำยาอาบน้ำเม่นแคระกับน้ำแบบเจือจางในกล่องพลาสติกสำหรับใช้อาบน้ำ ปริมาณน้ำกะให้มีความสูงประมาณท้องเม่นแคระ นำตัวเม่นแคระลงไปในกล่องพลาสติก เอาน้ำยาอาบน้ำที่ผสมไว้ในกล่องพลาสติกราดไปตามตัวเม่นแคระตั้งแต่ประมาณหัวไหล่เม่นแคระลงมา เอาแปรงสีฟันขัดสิ่งสกปรกที่ติดตามตัวเม่นแคระ ตามบริเวณหัวซึ่งเราราดน้ำยาอาบน้ำไม่ได้ก็ให้ใช้แปรงสีฟันเป็นตัวขัดทำความสะอาด
เมื่อทำความสะอาดหมดแล้ว ก็ให้เอาตัวเม่นแคระออกมาล้างด้วยน้ำเปล่า ในปริมาณที่มากพอที่จะชะล้างน้ำยาอาบน้ำออกไปจากตัวเม่นแคระได้หมด เมื่อเสร็จแล้วก็จับเม่นมาเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ อาจใช้ไดรฟ์เป่าผมช่วยเพื่อให้แห้งเร็วขึ้น…ฯลฯ
อาบน้ำเม่นแคระเสร็จแล้ว แนะนำให้ทำความสะอาดกล่องเลี้ยงดู ถ้วยอาหาร ขวดน้ำ ของเม่นแคระด้วย เพื่อเป็นการตัดวงจรของเชื้อโรค ตัวไร ที่อาจจะมาทำร้ายเม่นแคระได้
ลักษณะและนิสัย

  • เม่นแคระเป็นสัตว์นอนกลางวัน ตื่นหากินตอนกลางคืน ดังนั้นเวลากลางคืนหากคุณเลี้ยงเขาในบริเวณที่ใกล้กับบริเวณที่คุณนอนหลับพักผ่อน คุณจะได้ยินเสียงเม่นแคระกระทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งคืน (เม่นแคระไม่มีส่งเสียงร้อง ยกเว้นกรณีที่คุณจับเขาผสมพันธุ์) เช่น เสียงเดินไปมาในกล่อง เสียงจากการเกา เสียงยกถ้วยอาหาร เสียงกัดกินอาหาร เสียงกินน้ำจากขวด…คุณรับได้หรือไม่

jumboslot

  • เม่นแคระเป็นสัตว์สันโดษ ชอบอยู่ตัวเดียว ดังนั้นกรณีที่คุณเลี้ยงเขามากกว่า 1 ตัว แน่นอน พื้นที่ในการเลี้ยงดูก็ต้องแยกจากกันอย่างชัดเจนเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนตัวเม่น ไม่แนะนำให้เลี้ยงรวมกันเนื่องจากเม่นแคระ หวงถิ่นฐานหาอาหารของตัวเอง อาจจะเกิดการกัดกัน จนทำให้เกิดการเสียชีวิตได้ และนั้นก็หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการหาภาชนะเลี้ยงดูก็ต้องเพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถเลี้ยงรวมกันได้…คุณรับได้หรือไม่
  • เม่นแคระเป็นสัตว์ที่มีการตอบสนองน้อยกับคุณ เรื่องความฉลาดคิดว่าคงจะสู้ กระต่าย แกสบี้ ไม่ได้ (ฝึกให้เชื่องได้) เลี้ยงเม่นให้คิดเหมือนเลี้ยงปลา คือเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่จับเล่นได้ เม่นจะไม่มาคลอเคลีย หลอกล้อเล่นกับคุณ…คุณรับได้หรือไม่
    -เม่นแคระมีหนามที่ปกคลุมอยู่ด้านบนทั่วทั้งตัว หนามของเม่นแคระไม่มีทางอ่อนนุ่มเหมือนขนสัตว์หลายๆอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณอาจโดนหนามตำมือขณะที่จับตัวเขา หากจับไม่ถูกวิธี หรือทำให้เขาตกใจ หรือเม่นไม่มีความคุ้นเคยกับตัวคุณ…คุณรับได้หรือไม่…ฯลฯ
    เกณฑ์เทียบสีเม่นแคระ
    เม่นแคระที่เลี้ยงกันในโลกใบนี้นั้น มีอยู่หลายๆสายพันธุ์ด้วยกัน โดยแต่ละสายพันธ์ ก็มีลักษณะและโทนสีที่แตกต่างกันออกไป เป็นการยากมากที่เรา
    จะจำแนกแยกแยะสีเม่นแคระออกมาทั้งหมด ตามสายพันธุ์ที่มีอยู่ ตามสีที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้เพราะ ยังไม่มีการจัดเก็บรายละเอียดข้อมูลๆที่แน่นอน อย่างเป็นระบบ ระเบียบ จึงทำให้เกิดความสับสน ในการให้รายละเอียดสีเม่นแคระ อีกทั้ง การผสมพันธ์ของเม่นแคระที่ไม่ได้มีการควบคุม ทำให้เกิดโทนสีที่แตกต่างออกมาอีกมากมาย
    สำหรับประเทศไทยนั้น เม่นแคระได้ถูกนำเข้ามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านเรือน และได้รับการดูแล ผสมพันธ์อย่างไม่มีการควบคุมเช่นกัน จึงทำให้เกิดโทนสี ที่แตกต่างกันออกมาอีกมากมาย เพื่อให้ง่ายต่อการแยกแยะ เปรียบเทียบสีเม่นแคระ โดยมีรายละเอียดของแต่ละสี ที่นิยมใช้เรียกกันในประเทศไทย รูปภาพประกอบ ในการทำความเข้าใจ เพื่อใช้ประโยชน์ในการอ้างอิง เปรียบเทียบสีเม่นแคระกันในเบื้องต้น
    สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจ ก่อนเริ่มเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกชนิดคือ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะนิสัย ความเป็นอยู่ของสัตว์ที่เราต้องการนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ว่าสามารถเข้ากัยกับชีวิตประจำวันของตัวคุณได้หรือไม่ ต้องมองไปถึงสถานที่เลี้ยงสัตว์ ว่าคุณมีสถานที่เหมาะสมหรือไม่ แหล่งอาหารที่คุณสามารถหาให้เขาได้ สะดวกหรือลำบากกับตัวคุณแค่ไหน รวมไปถึงเมื่อเขาป่วย ไม่สบาย จะดูแลเขาอย่างไร อย่าคิดแต่ เพียงแค่มีเงินซื้อในตอนนี้ ต้องมองระยะยาว ว่ามีเงินเลี้ยงเขาตลอดไปด้วย “สัตว์ก็มีชีวิตจิตใจ เช่นเดียวกับคุณ ต่างกันตรงที่เขาพูด บอกคุณไม่ได้เท่านั้น”
    African pygmy hedgehog หรือ เม่นแคระ หรือชื่อไทยอื่นๆ ที่เคยได้ยินคนเรียกขานถึงสัตว์ชนิดนี้กัน เช่น”เม่นจิ๋ว” ,”เม่นสี ” ,”ทุเรียนเดินได้” ,”เงาะหนาม” ชื่อเหล่านี้ล้วนเกิดจากลักษณะจุดเด่นของสัตว์ตัวนี้ทั้งนั้นด้วยลำตัวที่ปกคลุมไปด้วยหนามทั่วทั้งตัว หรือพฤติกรรมเพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรู ด้วยการขดตัวม้วนกลมจนมองไม่เห็นขา หรือหน้าตา นอกจากหนามรอบตัว
    เม่นแคระถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โตเต็มที่มีขนาดใกล้เคียงกับหนูแกสปี้ หากินตามพื้นดินอาหารหลักคือพวกแมลง หนอน สัตว์เล็กๆที่อยู่ตามพื้นดิน ออกหากินในตอนกลางคืน และพักผ่อน หลบซ่อนตัวเองจากศัตรูในตอนกลางวัน
    มีจุดเด่นคือผิวหนังด้านบนจะปกคลุมด้วยหนามแข็งๆทั่วทั้งตัว โดยหนามจะมีโทนสีที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละตัว ส่วนผิวหนังด้านล่างส่วนท้องของลำตัวนั้นจะปกคลุมด้วยขนอ่อน มีลักษณะหยาบนิดหน่อย ไม่แข็งเป็นหนามเหมือนด้านบน

slot

สำหรับถิ่นกำเนิดจุดเริ่มต้นของสัตว์ชนิดนี้ มาจากทวีปแอฟริกา และมีการนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และ มีการพัฒนาสายพันธุ์กันในแถบยุโรป อเมริกา จนทำให้ได้ลักษณะเม่นที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งในด้านของสีหนามและลักษณะภายนอกอื่นๆ จนมีการตั้งชื่อและกำหนดลักษณะมาตรฐานสีชื่อกันขึ้นมา
สำหรับประเทศไทยนั้น เม่นแคระได้ถูกนำเข้ามาเพื่อเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านเรือน เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีจุดเด่นของตัวเอง เลี้ยงง่าย ดูแลก็ง่าย อีกทั้งพื้นที่ ที่ใช้ในการเลี้ยงก็น้อย และเรื่องของอาหารการกินที่ต้องจัดเตรียมให้เขา ก็ไม่ยุ่งยากมากนัก โดยเราสามารถให้อาหารแมวที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วไปได้ แล้วอาจจะเสริมด้วยหนอนนก(อาหารสุดโปรดของเม่นแคระ) หรือผลไม้ที่มีรสหวาน อาทิเช่น แอปเปิ้ล บ้างเป็นบ้างครั้งก็ได้

Tagged: Tags