มาเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงหมูแคระกันเถอะ
ใครๆ ก็รู้จักหมูใช่ไหมคะ แต่ถ้าพูดถึง “ หมูแคระ ” มีใครรู้จักบ้างไหมเอ่ย? ความจริงแล้วรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ผิดแปลกไปจากหมูทั่วไปหรอกค่ะ เพียงแต่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมเลี้ยงในหมู่คนรักสัตว์ ซึ่งถ้าคุณเกิดอยากจะเลี้ยงเจ้าหมูแคระขึ้นมา เรามีข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้มาบอก
ลักษณะหมูแคระ
มีขนาดเล็กกว่าหมูทั่วไปจึงถูกเรียกว่า “หมูแคระ” หรือ “หมูจิ๋ว” เป็นที่นิยมเลี้ยงในต่างประเทศมาก และเรียกชื่อต่างกัน เช่น “ไมโคร พิก” (Micro pig) “ทีคัพ พิก” (Teacup pig) “มินิ พิก” (Mini Pig) ที่เห็นตามภาพ หรือคลิปต่างๆ นั้นเป็นขนาดที่ยังไม่โตเต็มวัย ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าขนาดตัวของมันคงไม่โตมากไปกว่านี้แล้วแน่ๆ ซึ่งความจริงไม่ใช่นะคะ มันยังสามารถโตได้อีกค่ะ เมื่ออายุ 2-3 ปี อาจสูงถึง 14–16 นิ้ว หนักประมาณ 30 กิโลกรัม
จุดเด่นของหมูแคระ
มีจมูกสีชมพู แววตาสดใส ไม่มีกลิ่นให้รำคาญใจ ปัญหาเรื่องหมัดก็หายห่วง ไม่มีมารบกวนคนยี้หมัดแน่นอน จึงเหมาะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนยามเหงา ส่วนปัญหาด้านสุขภาพก็มีน้อย ถือว่าเป็นสัตว์ที่ดูแลรักษา และเลี้ยงง่าย แต่ให้พึงอย่างเดียวคือ โรคเกี่ยวกับผิวหนังแพ้ง่ายเท่านั้น
สายพันธุ์ยอดนิยม
1.มินิ พิก หมูพันธุ์แท้ขนาดเล็ก เช่น หมูกี้ หมูกระโดน น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม มีสีและขนาดมาตรฐานตรงตามสายพันธ์ กล่าวคือ เมื่อโตเต็มวัยก็จะมีขนาดที่เท่ากัน และสีเหมือนกันทุกตัว ทนทานต่อสภาพแวดล้อม กินง่าย ไม่เจ็บป่วยบ่อย
2.ไมโคร พิก และ ทีคัพ พิก พัฒนาพันธุ์มาจาก มินิ พิก ขนาดตัวเล็กจิ๋ว หลากลวดลาย หลากสีสัน เนื่องจากเป็นลูกหมูพันธุ์ผสม สายพันธุ์ยังไม่นิ่ง ลูกหมูพันธุ์นี้จึงโอกาสที่จะหลุดไซส์ไปขนาดใหญ่ขึ้นได้
นิสัยหมูแคระ
ฉลาดมาก และรักสะอาดกว่าสุนัขบางสายพันธุ์เสียอีกนะคะ มีความเป็นมิตรสูง เข้ากับผู้คนได้ง่าย เป็นสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างร่าเริง โดยนิสัยธรรมชาติของมัน เช่น ชอบขุดคุ้ยดินเล่น หากผู้เลี้ยงไม่เข้าใจ คิดว่ามันซน น้องหมูอาจแสดงความก้าวร้าวออกมาได้ แต่ไม่รุนแรงเท่าไหร่ ดังนั้น ควรศึกษานิสัย และคอยปรับพฤติกรรมเสมอ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
การเลี้ยง-อาหาร
สัตว์ทุกตัวเมื่อต้องย้ายถิ่นที่อยู่ใหม่มักมีความรู้สึกกลัว พยายามดูแลด้วยการกอด ลูบหัว ทำให้เขาไว้ใจ รู้สึกอบอุ่น ป้อนอาหารด้วยตัวเอง ไม่นานเขาจะรู้สึกคุ้นชินและไว้ใจเรา สำหรับที่นอน ให้ใช้ผ้านุ่มๆ มีความหนาด้วยจะดีมาก เพราะเขาชอบมุด หรือขดตัวใต้ผ้าเวลานอน หมั่นทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อฝึกนิสัยน้องหมูไปในตัวด้วยค่ะ
การให้อาหาร ห้ามเลี้ยงด้วยอาหารสุนัข แมว หรืออาหารที่เป็นเนื้อและมีรสเค็มเด็ดขาด ควรเลี้ยงด้วยผัก ผลไม้ เช่น แตงกวา ผักใบเขียวหลากชนิด แอปเปิ้ล โดยให้ปริมาณอาหารตามขนาดร่างกาย หากยังตัวเล็กอยู่ก็ไม่ต้องให้มากเกินไป เพราะไม่ว่าเขาจะหิว หรือไม่หิว หมูแคระนี้กินได้ตลอดไม่เลือกเวลา
การอาบน้ำ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหมูแคระมีนิสัยชอบขุดดิน ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของเขา ทำให้ร่างกายเกิดความสกปรกอยู่เสมอ จึงต้องหมั่นดูแลรักษาทำความสะอาด ให้ใช้สบู่สำหรับเด็กทำความสะอาด เพราะเจ้าหมูแคระมีผิวหนังที่แพ้ง่าย ควรอาบน้ำเดือนละครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีของเขาค่ะ
คิดสักนิดก่อนตัดสินใจเลี้ยง
ต้องมีความมั่นใจว่าเจ้าหมูนั้นจะเป็นที่ยอมรับของคนในครอบครัวนะคะ ควรตรวจสอบให้ดีว่าใกล้บ้านมีโรงพยาบาลสัตว์หรือเปล่า กรณีน้องหมูป่วยขึ้นมาจะได้ง่ายต่อการรักษา ยิ่งเวลาที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ไม่ควรทิ้งให้น้องหมูอยู่ตามลำพังเด็ดขาด ควรนำไปฝากเลี้ยงจะดีกว่าค่ะ เพราะนิสัยของมันชอบให้เอาใจใส่ โดยเฉพาะการพาไปออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมโปรดของหมูแคระเลยล่ะ ระวังเรื่องสภาพอากาศร้อนสักเล็กน้อย หากร้อนเกินไปอาจทำให้หมูเสียชีวิตได้
คงได้รู้ข้อมูลเบื้องต้นกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เอาเป็นว่าถ้าคิดจะเลี้ยงหมูแคระต้องหมั่นเอาใจใส่อย่างดี เพราะถึงแม้มันจะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย แต่การเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ควรกระทำนะคะ มอบความรักน้องหมู น้องหมูก็จะภักดีและอยู่กับเราตลอดไป
หมูแคระ หมูจิ๋ว คงมีคนเคยเห็นและอยากที่จะมีไว้สักตัว เพราะ มีความน่ารักด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ กะทัดรัด หมูจิ๋ว เป็นทีนิยมเลี้ยงในต่าง ๆ ประเทศ และในต่างประเทศก็จะเรียก เจ้าหมูจิ๋ว ต่าง ๆ กันไป เช่น Micro Pig , Mini pig เพราะขนาดลำตัวที่เล็กพอ ๆ กับ หมาปั๊ก ซุกซน ขี้อ้อน และเลี้ยงง่าย
แต่เพราะความใหม่ที่เพิ่งมีเทรนด์นี้ราคาค่าตัวจึงยังสูงแตะหลักหมื่นเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนนี้เป็นการนำสายพันธ์เข้ามาจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันนี้สามารถเพาะพันธุในประเทศไทยได้แล้ว
ประวัติความเป็นมา หมูจิ๋ว
หมูจิ๋วมีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ในปีประมาณ 19921 ในฟาร์มเพาะเลี้ยงหมูคริสมอเรย์ ที่ใช้ความพยายามผสมพันธุ์หมูจิ๋ว โดยนำหมูสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น หมูเวิร์ท หมูนิวซีแลนด์ จนได้เป็นหมูจิ๋ว ที่มีชื่อว่า Teacup ping เพราะขนาดที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กพอ ๆ กับถ้วยน้ำชา และขายให้กับผู้ที่ต้องการเลี้ยง ด้วยราคาถึงหลักหมื่น และเหล่าเซเลมคนดังต่างนิยมเลี้ยงหมูจิ๋วกันอย่างมาก ด้วยความน่ารัก และเลี้ยงง่าย ทำให้ฟาร์มจึงเพาะพันธุ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่ทันต่อความต้องการ จนมีอีกหลายฟาร์มเริ่มทำตาม
ลักษณะทั่วไปของหมูจิ๋ว
หมูจิ๋ว เป็นหมูที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดปกติ สมตามชื่อ หมูจิ๋ว ด้วยขนาดที่เล็กทำให้มีน้ำหนักตัวที่เบา หมูจิ๋วจะโตเต็มที่ต้องใช้เวลาดูแลประมาณ 3 ปี และเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 25-30 กิโลกรัม มีส่วนสูง ที่10-15 นิ้ว หมูจิ๋วจะมีอายุขัยอยู่ราว 20 ปี การเลี้ยงดูทำได้ง่าย หมูจิ๋วจะไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และไม่เห็บหมัด
ลักษณะนิสัย
หมูจิ๋ว หรือ หมูแคระ เป็นหมูที่มีนิสัย ซุกซน ขี้อ้อน ชอบอยู่กับคนเลี้ยง มีความฉลาดมาก และเป็นสัตว์ที่รักสะอาดมาก และเข้ากับคนง่าย แต่หมูก็คือหมู ยังมีพฤติกรรมเดิมอยู่กับตัวอย่างพฤติกรรมการที่ชอบคุ้ยดิน อยู่ไม่ค่อยนิ่ง ชอบเดินไปรอบ ๆ ดื้อ บ้างในบางครั้ง ผู้เลี้ยงจึงควรฝึกนิสัยให้เป็นระเบียบ หมูจิ๋วสามารถฝึกสอนได้
การเลี้ยงและดูแลหมูจิ๋ว
ปัจจุบันนี้หมูจิ๋วได้รับความนิยมมากเพราะมีความน่ารัก ฉลาด จนอดหลงรักไม่ได้ เลี้ยงง่าย มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เหมาะกับการเลี้ยงไว้คลายเหงา เพราะสามารถอยู่กับคนเลี้ยงได้นานถึง 20 ปี เป็นสัตว์เลี้ยงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังมีปัญหากวนบ้างเล็กน้อย เกี่ยวกับโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับกีบเท้า และหาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาด และอาหารที่ให้ในการเลี้ยงดู
อากาศร้อนเป็นอันตรายต่อหมูจิ๋ว หมูจิ๋วไม่ชอบอากาศที่ร้อนแดดจะทำให้หมูจิ๋วสามารถไหม้ได้ และอาจทำให้หมูจิ๋วช็อกตายได้
อาหารของหมูจิ๋ว นั้นไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมว สำหรับลูกหมูจิ๋ว ไม่ควรที่จะให้กินอาหารเยอะ เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลดีกับลูกหมูอาหารไม่ควรมีรสชาติเค็ม ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่ควรให้กินพืชผัก และผลไม้ เพื่อลูกหมูจะได้รับสารอาหารที่ครบ ให้เพียงวันละสองมื้อ เช้าและเย็น
ตอนนี้หมูจิ๋วเป็นที่นิยมมากและราคาต่ำลงจากช่วงแรก ๆ มาก แต่ก็ควรเลือกให้ดีหลายคนที่เคยสั่งซื้อหมูจิ๋วจากออนไลน์ หรือร้านขายโดยหวังว่าจะได้ลูกหมูจิ๋วสักตัว แต่ต้องผิดหวังโดนหลอก จึงต้องพิจารณา ลักษณะเด่น ของหมูจิ๋วดังนี้ ควรเน้นเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี ยิ่งมีใบการันตีได้ยิ่งดี มีจมูกสั้น มีลำตัวที่ยาวไม่สูงมาก หูมีขนาดเล็กตั้งตรง ขาสั้นๆ
หากคุณคิดจะเลี้ยงหมูจิ๋วสักตัว อย่าลืมพิจารณาความพร้อมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ว่าพร้อมหรือยังที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงสักตัว เพราะไม่ใช่แค่ความชอบและอยากเลี้ยง แต่ต้องใส่ใจและมีเวลาให้กับเค้าเหล่านั้น เพราะสัตว์เลี้ยงทุกชนิดก็มีชีวติและจิตใจที่ต้องการความรักและความเข้าใจจากผู้เลี้ยง
ลักษณะหมูแคระ
มีขนาดเล็กกว่าหมูทั่วไปจึงถูกเรียกว่า “หมูแคระ” หรือ “หมูจิ๋ว” เป็นที่นิยมเลี้ยงในต่างประเทศมาก และเรียกชื่อต่างกัน เช่น “ไมโคร พิก” (Micro pig) “ทีคัพ พิก” (Teacup pig) “มินิ พิก” (Mini Pig) ที่เห็นตามภาพ หรือคลิปต่างๆ นั้นเป็นขนาดที่ยังไม่โตเต็มวัย ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าขนาดตัวของมันคงไม่โตมากไปกว่านี้แล้วแน่ๆ ซึ่งความจริงไม่ใช่นะคะ มันยังสามารถโตได้อีกค่ะ เมื่ออายุ 2-3 ปี อาจสูงถึง 14–16 นิ้ว หนักประมาณ 30 กิโลกรัม
จุดเด่นของหมูแคระ
มีจมูกสีชมพู แววตาสดใส ไม่มีกลิ่นให้รำคาญใจ ปัญหาเรื่องหมัดก็หายห่วง ไม่มีมารบกวนคนยี้หมัดแน่นอน จึงเหมาะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนยามเหงา ส่วนปัญหาด้านสุขภาพก็มีน้อย ถือว่าเป็นสัตว์ที่ดูแลรักษา และเลี้ยงง่าย แต่ให้พึงอย่างเดียวคือ โรคเกี่ยวกับผิวหนังแพ้ง่ายเท่านั้น
ปัจจุบันสถานการณ์หมูในประเทศไทยเจอกับปัญหาใหญ่ ผู้ประกอบการฟาร์มขาดทุนตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จากภาวะหมูล้นตลาด(oversupply) จากต้นทุนค่าอาหาร วัคซีน Feed additives รวมถึงค่าแม่หมู ลูกหมู รวมเป็นต้นทุนการผลิตกว่า 55 บาท/กก. แต่ราคารับซื้อหน้าฟาร์มอยู่ที่ 40-44 บาท ในเขตตะวันตกของประเทศ
ปัญหาที่ว่านี้อาจจะทุเลาลงจากราคาที่ปรับขึ้น 2-4 บาท ในพระที่ผ่านมา เพื่อรองรับการบริโภคในเทศกาลตรุษจีน เราคงต้องรอดูกันว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นอย่างไร? ราคาจะขึ้นแล้วยืนได้ต่อหรือไม่?
สถานการณ์หมูที่เวียดนามมีปัญหาบางส่วนใกล้เคียงกับบ้านเรา หมูหน้าฟาร์มราคาประมาณ 40 บาท จากเมื่อก่อนที่มีกำลังการผลิตสูง เพราะสามารถส่งออกหมูให้กับประเทศจีน ผู้บริโภคใหญ่ของโลก แต่เมื่อประเทศจีนปฏิเสธที่จะนำเข้าหมูจากเวียดนามอย่างกระทันหัน หมูที่ผลิตออกมาก็ล้นตลาด(oversupply) รวมถึงมีการนำเข้าชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกา ราคาหมูหน้าฟาร์มจึงตกต่ำตั้งแต่นั้นมา
วันนี้เรามาดูกรณีตัวอย่างในการปรับตัวของฟาร์ม Tan Uyen ที่ยังอยู่ได้แม้ในสถานการณ์ราคาหมูตกต่ำ ฟาร์มนี้เป็นฟาร์มผลิตและเลี้ยงหมูขุนเอง(Farrow-to-finish) ขนาด 1,200 แม่ ไม่เล็กแต่ก็ไม่ถึงกับใหญ่มาก เป็นฟาร์มที่มีนวัตกรรม คิดค้นสิ่งใหม่ใช้กับฟาร์มตัวเองอยู่เสมอ ทดลอง ออกแบบและสร้างกรงยืนที่มีขนาดที่เหมาะกับฟาร์ม มีขนาดใหญ่กว่าแบบมาตรฐานทั่วไป
โดยที่ฟาร์มคาดการณ์ไว้ว่าสถานการณ์ราคาตกต่ำจะเป็นแบบนี้อีกนานจึงเลือกที่จะลดแม่พันธุ์ลงโดยทยอยขายแม่คัดทิ้ง และปัจจุบันรักษาปริมาณแม่พันธุ์ไว้ที่ 600 แม่ เพื่อลดการขาดทุน รักษาเงินสำรองไว้ เพื่อรอตลาดพร้อมและตั้งใจจะกลับมาเลี้ยงที่ 1,200 แม่เท่าเดิม แต่ยังคงรักษาผลผลิตให้ดี ลดความเสี่ยงต่อโรคที่จะเข้ามา ป้องกันการขาดทุนเพิ่มจากความเสียหายได้อีก
‘บทความนี้เป็นเพียงกรณีฟาร์มตัวอย่าง ไม่ได้ต้องการสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนการลดปริมาณแม่พันธุ์’ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของฟาร์ม และมุมมองถึงราคาในอนาคต ถ้าราคากลับมาดีเร็ว ฟาร์มที่ได้ประโยชน์ก็คือฟาร์มที่รักษาปริมาณหมูไว้เท่าเดิม แต่ถ้าราคายังแย่แบบนี้อีกนาน ฟาร์มที่จะประคับประคองไปได้ ก็คือฟาร์มที่จำกัดการขาดทุนได้ดี